เคล็ดลับเผาผลาญไขมัน ปิดกั้นแคลอรี

ปัญหาไม่รู้จบของคนในยุคปัจจุบันคือ น้ำหนักเกิน อ้วนและโรคแทรกซ้อนของคนอ้วน ยิ่งนับวันเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น จนทำให้เราแทบจะลืมการเคลื่อนไหวร่างกายและการออกกำลังกาย ยิ่งความรู้ด้านการแพทย์ โภชนาการก้าวหน้ามากเท่าใด ก็ดูเหมือนว่าความรู้ไม่สามารถแก้ปัญหาโรคอ้วน ปัญหาน้ำหนักเกินก็ยังคงมากขึ้นเรื่อยๆ

การจะรับมือกับปัญหาก็คือ การต้องเรียนรู้อย่างจริงจังว่าร่างกายเราควบคุมแคลอรีเข้า-ออกอย่างไร เมื่อเราเข้าใจว่าร่างกายทำงานอย่างไร เราก็จะสามารถควบคุมความสมดุลแห่งสุขภาพได้มากขึ้นเท่านั้น

ร่างกายควบคุมน้ำหนักอย่างไร ?

1. ควบคุมพลังงานที่เข้าสู่ร่างกาย (Calorie in)

เมื่อร่างกายของเราเริ่มรู้สึกว่าน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเกินไป ร่างกายจะเริ่มควบคุมระบบสมองที่ควบคุมการกินให้ชะลอตัวลง ทำให้เรารู้สึกหิวน้อยลง หิวช้าลง และถ้าน้ำหนักร่างกายลดลงมากเกิน ก็จะกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกว่าต้องรับประทานอาหารเร็วขึ้น มากขึ้น

2. ควบคุมการเผาผลาญพลังงาน (Calorie out)

เมื่อร่างกายของเราเริ่มรู้สึกว่าน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเกินไป ร่างกายจะเริ่มกระตุ้นเซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้มีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น และถ้าน้ำหนักร่างกายลดลงมากเกินไปก็จะเริ่มชะลอการเผาผลาญในร่างกายให้ลดลง

❝ อาจกล่าวได้ว่า คนที่มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ย่อมเกิดจากการรับประทานอาหารมากเกินความต้องการหรือการเผาผลาญในร่างกายลดลง อย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจเกิดร่วมกันทั้งสองสาเหตุก็ได้ ❞

ปัจจัยสำคัญในการควบคุมน้ำหนัก คือ การปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย เมื่อคุณรับประทานอาหารมากขึ้น หากคุณสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้สูงขึ้นด้วย น้ำหนักก็ไม่เพิ่ม น้ำหนักคงที่หรืออาจลดลง แต่ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก สิ่งสำคัญที่จะทำให้น้ำหนักลดได้ก็คือ การควบคุมแคลอรีที่เข้าสู่ร่างกายให้ลดลงและเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้เพิ่มขึ้น

อัตราการเผาผลาญรวมส่วนใหญ่มาจากการเผาผลาญพื้นฐาน 60-65% การเผาผลาญจากกิจกรรม 25-35% และ การเผาผลาญจากการย่อยอาหาร 5-10% จะเห็นได้ว่าการเผาผลาญที่เกิดจากการออกกำลังกายเป็นเพียง 1/3 – ¼ ของการเผาผลาญทั้งร่างกาย แต่การเพิ่มการเผาผลาญพื้นฐานจะมีผลต่ออัตราการเผาผลาญทั้งร่างกายได้มากกว่า ปัจจัยที่จะเพิ่มการเผาผลาญพื้นฐาน ได้แก่ การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ลดมวลไขมัน ลดความเครียด และการรับประทานอาหารครบถ้วน

- สารอาหารเพิ่มการเผาผลาญ -

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การเพิ่มการเผาผลาญก็คือการออกกำลังกายเท่านั้น จริงๆ แล้ว การออกกำลังกายเป็นการเพิ่มการเผาผลาญในส่วนของกล้ามเนื้อและกิจกรรมระหว่างวันซึ่งเป็นเพียง 25-35% ของร่างกายเท่านั้น จริงๆ แล้วหากเราเพิ่มการเผาผลาญในส่วนพื้นฐานของร่างกายซึ่งเป็น 60-65% ของร่างกาย ย่อมจะมีผลลดไขมันสะสมและลดน้ำหนักได้เช่นกัน

งานวิจัยด้านการแพทย์พบว่า สารอาหารธรรมชาติบางชนิดมีผลกระตุ้นการเผาผลาญพื้นฐานในร่างกาย ซึ่งมีผลต่อการเผาผลาญส่วนใหญ่ในร่างกายและอาจช่วยเสริมในโปรแกรมลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

▪ สารสกัดจากชาเขียว ▪

จากงานวิจัยพบว่า สารแคททิชินในชาเขียวสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในร่างกายมาถึง 4% เร่งอุณหภูมิในร่างกายให้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการลดไขมันสะสมได้เป็นอย่างดี โดยพบว่าสารสกัดจากชาเขียวจะเพิ่มการเผาผลาญทั้งขณะที่ร่างกายอยู่เฉยๆ และทั้งขณะออกกำลังกาย

อย่างไรก็ตาม พบว่าการดื่มชาเขียวจากธรรมชาตินั้น ร่างกายสามารถดูดซึมสารแคททิชินได้ค่อนข้างน้อย นักวิจัยจึงใช้เทคโนโลยีผสมสารสกัดชาเขียวเข้ากับสารฟอสโฟไลปิด (Phospholipids) ทำให้สามารถเพิ่มการดูดซึมได้จนถึงระดับที่ต้องการในการเพิ่มการเผาผลาญและควบคุมน้ำหนัก

▪ สารสกัดจากสาหร่าย ▪

จากงานวิจัยพบว่า สกัดสารฟูโคแซนทีน (Fucoxanthin) จากสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลชนิดที่รับประทานได้ จะช่วยชะลอกระบวนการสะสมไขมันในเซลล์ ลดการแบ่งตัวของเซลล์ไขมัน เร่งเอนไซม์ที่ดึงไขมันมาเป็นพลังงานมากขึ้น งานวิจัยล่าสุดในปี 2015 พบว่าสามารถลดระดับการอักเสบและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายอีกด้วย